ไม่กี่ปีที่ผ่านมา วงการบิวตี้และสกินแคร์ในเอเชียมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แบรนด์จีนหลายแบรนด์สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดด้วยการผสมผสานคุณภาพสินค้า นวัตกรรม และการตลาดเชิงดิจิทัลที่เฉียบคม หนึ่งในแบรนด์ที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือแบรนด์ PROYA (珀莱雅) แบรนด์สกินแคร์สัญชาติจีนที่ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2006 โดยมีชื่อเสียงจากผลิตภัณฑ์อย่างเซรั่ม มอยส์เจอร์ไรเซอร์ และมาส์ก ที่ขึ้นชื่อเรื่องความอ่อนโยน เหมาะกับผิวคนเอเชีย และประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดจีน เป็นหนึ่งใน C-Beauty ที่ท้าชนแบรนด์ญี่ปุ่นเกาหลี และเริ่มที่จะขยายการเติบโตไปสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย และล่าสุด PROYA ที่กำลังเข้าไทยก็ได้เปิดตัวพรีเซนเตอร์อย่างเป็นทางการ อย่างคุณ หลิงหลิง คอง นักแสดงที่มีฐานแฟนคลับเหนียวแน่นจากซีรีส์วายหญิงหญิง ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างการรับรู้แบรนด์และวางตำแหน่ง PROYA ในตลาดไทย
ทำไมต้องหลิงหลิง คอง
กระแสคู่จิ้นนักแสดง หญิง-หญิง ในไทยเกิดขึ้นมากมาย เช่น อิงฟ้า-ชาล็อต, ฟรีน-เบ็คกี้ และล่าสุด หลิง-ออมที่โด่งดังสร้างกระแสฟีเวอร์ไม่ใช่แค่เฉพาะในไทยแต่ยังดังไกลในระดับอินเตอร์อีกด้วย โดยปี 2024 ที่ผ่านมา ประเทศไทยครองอันดับ 1 ของตลาดซีรีส์วายชาย-ชาย ในเอเชีย โดยมีสัดส่วนมากถึง 53% ส่วนซีรีส์ยูริ หญิง-หญิงของไทย ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงมากเช่นกัน โดยมีภาพยนตร์ ซีรีส์ และเรื่องสั้นแนว Girl Love ของไทยออกอากาศมากกว่า 40 เรื่อง
ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมแบรนด์ PROYA ถึงเลือกหลิงหลิง ศิริลักษณ์ คอง หรือหลิงหลิง คอง (鄺玲玲) นักแสดงสาวดาวรุ่งจากไทย ที่มีกระแสจากบทหมอฟ้าลดา จากซีรีส์ใจซ่อนรัก (The Secret of Us) โดยคำตอบอาจไม่ได้อยู่แค่ในความดัง แต่เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ชาญฉลาดที่ต้องการเจาะผู้บริโภครุ่นใหม่ด้วยภาพลักษณ์ที่เรียลและเข้าถึงได้ เหตุผลที่แบรนด์ PROYA เลือกหลิงหลิง คอง มีดังนี้
1. ภาพลักษณ์ที่เรียลและเข้าถึงได้
Source: Propholic
ต่างจากโฆษณาความงามที่มักนำเสนอดาราระดับไอคอนในลุค Perfect Beauty ที่ดูห่างไกลผู้บริโภค หลิงหลิง คองกลับมีเสน่ห์แบบ Next-door Star ซึ่ง Next-door Star หมายถึง คนดังที่ดูเป็นมิตร เข้าถึงง่าย แต่มีเสน่ห์ในแบบที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ไม่ได้ดูห่างไกลหรือเอื้อมไม่ถึง ทำให้ผู้ชมจำนวนมากมองว่าเสน่ห์ของหลิงคองไม่ได้อยู่ที่ความเพอร์เฟกต์ แต่คือความธรรมชาติที่มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง สิ่งนี้ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเราก็เข้าถึงแบรนด์ได้
อีกหนึ่งจุดแข็งที่แบรนด์ PROYA มองเห็นคือ ฐานผู้ติดตามที่เหนียวแน่นของหลิงคอง ซึ่งไม่ใช่แค่กลุ่มแฟนคลับในประเทศไทยเพียงเท่านั้น แต่ยังขยายไปยังจีนและประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยปรากฏการณ์คู่จิ้นที่ได้รับความนิยมในประเทศจีน ทำให้หลิงหลิง คองมีชื่อเสียงและเป็นที่จดจำในตลาดขนาดใหญ่อย่างจีนด้วย ส่งผลให้มี Fan Engagement สูงกว่าดาราทั่วไป
ด้วยความเหนียวแน่นของฐานแฟนคลับ เมื่อหลิงหลิง คองกลายเป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ PROYA ก็เท่ากับว่าแบรนด์ได้แรงสนับสนุนจากแฟนคลับจำนวนมหาศาลที่พร้อมจะช่วยกระจายคอนเทนต์ พูดถึงสินค้า และสร้างกระแส Buzz ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่แตกต่างจากการเลือกดาราดังเพียงเพื่อภาพลักษณ์ เพราะนี่คือการได้ Community-driven Marketing ที่ทรงพลังในตัวเอง
2. พลังแฟนคลับเหนียวแน่น โดยเฉพาะสายคู่จิ้น
Source: LingOrm Basehouse
หลิงหลิง คองมีฐานแฟนคลับที่ไม่ใช่แค่ในไทยแต่ยังขยายไปถึงจีนและประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยกระแสจากผลงานการแสดงและเสน่ห์เฉพาะตัวที่แฟน ๆ ยกให้เป็นหนึ่งในนักแสดงคู่จิ้นที่น่าจับตามอง ปรากฏการณ์ Shipping Culture ทำให้แฟนคลับไม่ได้เพียงแค่ติดตามผลงาน แต่ยังร่วมสร้างคอนเทนต์ พูดถึง และโปรโมตดาราที่พวกเขารักอย่างต่อเนื่อง ทั้งคลิปแฟนเมด โปรเจกต์ซัพพอร์ต ไปจนถึงการติดแฮชแท็กจนขึ้นเทรนด์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนการตลาดที่ทรงพลัง เพราะทันทีที่แบรนด์ PROYA ประกาศเปิดตัวหลิงหลิง คองเป็นพรีเซนเตอร์ ก็เหมือนกับได้กองทัพแฟนคลับช่วยขยายกระแส สร้างการพูดถึง และทำให้เกิด Buzz Marketing ได้แทบจะในทันที
ที่สำคัญคือความนิยมของหลิงหลิง คองในประเทศจีนยังช่วยให้แบรนด์ PROYA เจาะเข้าตลาดได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มแฟนคู่จิ้นที่มีความภักดีสูงและพร้อมจะสนับสนุนทุกโปรเจกต์ที่ศิลปินมีส่วนร่วม เมื่อสิ่งนี้ถูกเชื่อมโยงเข้ากับแบรนด์ PROYA นี่จึงไม่ใช่แค่การเลือกพรีเซนเตอร์ แต่คือการเลือก Community ที่จะมาช่วยสร้างพลังการตลาดไปด้วยกัน
และหากมองในเชิงภาพลักษณ์ แบรนด์ PROYA เองก็ต้องการสื่อสารถึงความงามแบบเอเชียยุคใหม่ที่ทั้งสดใหม่ เข้าถึงง่าย และเต็มไปด้วยพลังบวก หลิงหลิง คองจึงตอบโจทย์อย่าง โดยหลิงหลิง คองไม่ได้เป็นเพียงหน้าตาของแคมเปญ แต่เป็นตัวแทนที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์ได้
3. Mood & Tone ที่ตรงกับแบรนด์
Source: Khaosod
แบรนด์ PROYA ต้องการสื่อสารถึงความงามแบบเอเชียยุคใหม่ ซึ่งคือความงามที่ไม่ใช่แค่ภายนอก แต่ต้องสะท้อนทั้งความมั่นใจ ความสดใหม่ และเสน่ห์ที่เข้าถึงง่ายในเวลาเดียวกัน นี่คือจุดที่หลิงหลิง คองสามารถเติมเต็มภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างลงตัว
โดยรูปลักษณ์ของหลิงหลิง คองให้ความรู้สึก Clean, Modern และอ่อนโยนในแบบที่ผู้บริโภครุ่นใหม่มองหา ในขณะเดียวกันบุคลิกของหลิงหลิง คองยังเต็มไปด้วยพลังงานบวก ความอบอุ่น และความจริงใจ ซึ่งสอดคล้องกับ Positioning ของแบรนด์ PROYA ที่ต้องการให้ผู้บริโภครู้สึกว่านี่คือแบรนด์ที่เข้าใจผู้บริโภค
ไม่เพียงแค่นั้น วิธีการสื่อสารของหลิงหลิง คองกับแฟน ๆ ทั้งผ่านการให้สัมภาษณ์ โพสต์บนโซเชียลมีเดีย หรือการปรากฏตัวตามอีเวนต์ มักแสดงออกถึงความเอาใจใส่และจริงใจ ซึ่งทำให้หลิงหลิง คองไม่ใช่เพียงหน้าตาของแบรนด์ PROYA แต่ยังเป็นตัวแทนความสัมพันธ์ที่แบรนด์อยากสร้างกับผู้บริโภคอีกด้วย สรุปคือแบรนด์ PROYA ไม่ได้เลือกหลิงหลิง คองเพราะชื่อเสียงเพียงอย่างเดียว แต่เลือกเพราะ Mood & Tone ที่สามารถสะท้อน DNA ของแบรนด์ได้ครบถ้วน ทั้งความอ่อนโยนแบบเอเชีย ความมั่นใจแบบคนรุ่นใหม่ และความอบอุ่นที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกใกล้ชิด
4. สะพานเชื่อมระหว่างไทยและจีน
Source: Prachachat
อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้แบรนด์ PROYA เลือกหลิงหลิง คองมาเป็นพรีเซนเตอร์ คือบทบาทในฐานะสะพานเชื่อมระหว่างตลาดไทยกับตลาดจีน ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาวงการบันเทิงไทยโดยเฉพาะซีรีส์วายและคู่จิ้นนักแสดงไทย กำลังได้รับความนิยมอย่างมหาศาลในประเทศจีนและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งกระแสนี้ไม่เพียงแค่สร้างแฟนคลับจำนวนมาก แต่ยังทำให้ Soft Power ของไทย ถูกพูดถึงในเชิงบวกและกลายเป็นที่จับตามองของแบรนด์ต่างชาติ
หลิงหลิง คองในฐานะหนึ่งในดาราที่มีฐานแฟนคลับเหนียวแน่นทั้งในไทยและจีน จึงเป็นตัวแทนทางวัฒนธรรม ที่สามารถเชื่อมโยงความชอบ ความสนใจ และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคสองประเทศเข้าด้วยกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อแบรนด์ PROYA เลือกหลิงหลิง คองมาเป็นพรีเซนเตอร์ ก็ไม่ต่างจากการวางยุทธศาสตร์ Cross-border Marketing ที่ได้ทั้งการเจาะตลาดไทย และการขยายอิทธิพลในตลาดจีนไปพร้อม ๆ กัน
นอกจากนี้แฟนคลับของหลิงหลิง คองยังมีพฤติกรรมที่น่าสนใจ นั่นคือการซัพพอร์ตศิลปินผ่านการสนับสนุนแบรนด์ที่หลิงหลิง คองเป็นพรีเซนเตอร์ โดยตัวอย่างที่เห็นได้บ่อยคือโปรเจกต์แฟนคลับที่ช่วยกันซื้อสินค้า ติดแฮชแท็ก สร้างคอนเทนต์รีวิว หรือแม้แต่จัดกิจกรรมเพื่อโปรโมตศิลปินที่รัก พลังของ Community แฟนคลับเหล่านี้จึงกลายเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพสูง และช่วยให้แบรนด์ PROYA ไม่ได้ขายแค่สินค้า แต่ขายความผูกพันที่เหล่าแฟนคลับมีต่อศิลปินด้วย
ดังนั้นการเลือกหลิงหลิง คองจึงเป็นมากกว่าการเลือกพรีเซนเตอร์ทั่วไป แต่คือการเลือกสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์จีนกับผู้บริโภคในประเทศไทย และยังเป็นการตอกย้ำว่าแบรนด์ PROYA มองเห็นศักยภาพของ Soft Power ไทยที่สามารถต่อยอดเป็นโอกาสทางธุรกิจในระดับภูมิภาคได้อย่างแท้จริง
แบรนด์ PROYA กำลังเล่นเกมการตลาด
Source: Chaileedo
แบรนด์ PROYA กำลังเล่นเกมการตลาดที่น่าจับตามองด้วยการเลือกหลิงหลิง คองมาเป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่งไม่ใช่แค่การหาดาราหน้าใหม่มานำเสนอสินค้า แต่เป็นการเดินหมากเชิงกลยุทธ์ที่ลึกซึ้งและฉลาดมาก โดยการตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงการ Localization Strategy ที่คิดแบบ Global แต่ปรับให้ดู Local ซึ่งการเลือกคนไทยมาเป็นพรีเซนเตอร์จะช่วยให้แบรนด์ PROYA ไม่ถูกมองว่าเป็นเพียงแบรนด์ต่างชาติที่ไกลตัว แต่กลายเป็นแบรนด์ที่เข้าใจผู้บริโภคไทยอย่างแท้จริง
นอกจากนี้แบรนด์ PROYA ยังแสดงให้เห็นถึงการใช้ Influencer-driven Branding อย่างชัดเจน เพราะในยุคที่ผู้บริโภคไม่ต้องการแค่ภาพโฆษณาที่หรูหราหรือดาราระดับซูเปอร์สตาร์ แต่ต้องการความจริงใจและเสียงจากประสบการณ์จริง หลิงหลิง คองจึงถูกเลือกมาเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ ที่สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้ตรงไปตรงมาและเข้าถึงได้ง่ายมากกว่า
อีกจุดที่น่าสนใจคือการมองเกมในมิติ Cross-border Influence โดยอินฟลูเอนเซอร์ไทยไม่ได้มีอิทธิพลเพียงในประเทศ แต่ยังสามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคจีนที่กำลังอินกับ Culture และ Trend จากต่างประเทศได้ด้วย การเลือกหลิงคองจึงกลายเป็นสะพานที่ช่วยแบรนด์ PROYA เชื่อมทั้งสองตลาดเข้าหากันได้อย่างดี ทำให้ชื่อของแบรนด์ PROYA ปรากฏมากขึ้นในวงการ Beauty ไทย ไม่ว่าจะบน TikTok, Instagram หรือ YouTube และในขณะเดียวกัน นี่ก็ยังเป็นการยกระดับบทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ไทย ที่ครั้งหนึ่งอาจถูกมองว่าอยู่ในเวทีเล็ก แต่ตอนนี้กำลังกลายเป็นผู้เล่นที่แบรนด์ระดับเอเชียเริ่มให้ความสำคัญ
Source: 珀莱雅Group
ไม่เพียงเท่านั้นแบรนด์ PROYA ยังเปิดประตูให้กับการ Collaboration ใหม่ ๆ ในอนาคต เพราะเมื่อเกมนี้เดินได้ผล แบรนด์จีนอื่น ๆ อย่าง Perfect Diary, Florasis หรือ Judydoll ก็อาจเริ่มหันมามองหาพรีเซนเตอร์จากไทยเช่นกัน สำหรับนักการตลาดแล้ว เรื่องนี้สะท้อน Key Takeaways สำคัญหลายประการ หนึ่งคือ อินฟลูเอนเซอร์ไทยกำลังถูกจับตามองในระดับเอเชีย ไม่ใช่แค่ในประเทศ สองคือ แบรนด์จีนเริ่มใช้กลยุทธ์ Influencer Marketing ที่เน้นเรียลและใกล้ชิดมากขึ้น และสามคือ ความร่วมมือไทย-จีนในแวดวงความงามกำลังแน่นแฟ้นขึ้น โดยมีอินฟลูเอนเซอร์เป็นตัวกลางเชื่อมที่ทรงพลัง
สรุปได้ว่าการที่หลิงหลิง คองได้เป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ PROYA ไม่ได้เป็นแค่การจับมือระหว่างอินฟลูเอนเซอร์กับแบรนด์สกินแคร์ แต่ยังเป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการการตลาดความงาม ที่บ่งชี้ว่าแบรนด์จีนเริ่มมองเห็นศักยภาพของอินฟลูเอนเซอร์ไทยบนเวทีระดับภูมิภาค
กระแสแบรนด์ PROYA x หลิงหลิง คอง แสดงให้เห็นว่าโลกการตลาดความงามกำลังเดินหน้าไปสู่ยุคของ Cross-border Influencer Marketing อย่างเต็มรูปแบบ S39 Digital Agency พร้อมเป็นสะพานเชื่อมระหว่างแบรนด์จีนกับผู้บริโภคไทย รวมถึงตลาดโลก ด้วยกลยุทธ์ Influencer Marketing ที่ไม่ใช่เพียงการหาคนดังมาพูดถึงสินค้า แต่เป็นการสร้างพลังการสื่อสารที่เข้าถึงผู้บริโภคได้จริง สร้างความน่าเชื่อถือ วัดผลได้ชัดเจน และต่อยอดเป็นภาพลักษณ์ที่แข็งแรงและยั่งยืนในระยะยาว สำหรับแบรนด์จีนที่กำลังมองหาหนทางขยายตลาดในต่างประเทศ S39 ไม่ได้เป็นเพียงเอเจนซี่ แต่เป็นพาร์ตเนอร์ที่จะช่วยคุณก้าวไปได้ไกลและมั่นคงกว่าที่เคย
📩 ติดต่อเราตอนนี้
📞 02-248-3068 หรือ 061-153-5845 | 📧 info@s39digital.com
Source:
The Yaoi Phenomenon in Thailand and Fan/Industry Interaction (Researchgate)
‘หลิง-ออม’ ฟีเวอร์! กวาดรายได้ Presenter หลายแบรนด์ดัง รวมหลักร้อยล้าน! (Forbes Thailand)
คนแรกของไทย หลิงหลิง ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์ แบรนด์ความงามชั้นนำเกาหลีใต้ (TNN Thailand)
ถอดรหัส “หลิง-ออม” คู่จิ้นหญิงหญิง ที่ดัง ตั้งแต่ซีรีส์ยังไม่เข้าฉาย (Spring News)