Influencer Marketing กุญแจสู่ E-commerce จีน

ประเทศจีนไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งในตลาด E-commerce ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ยังเป็นสมรภูมิที่ร้อนแรงที่สุดสำหรับแบรนด์ที่ต้องการขยายฐานลูกค้า การสร้างการรับรู้และความเชื่อมั่นในหมู่ผู้บริโภคชาวจีนจึงกลายเป็นความท้าทายที่ไม่อาจมองข้ามได้

ในโลกดิจิทัลที่หมุนเร็วของจีน Influencer ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้มีอิทธิพลด้วยฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นและความสามารถในการชี้นำพฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ Influencer Marketing กลายเป็นกลยุทธ์ที่แบรนด์ทั่วโลกต่างจับตามอง เพื่อสร้างการรับรู้ สื่อสารคุณค่า และผลักดันยอดขายในตลาดจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เบื้องหลังปรากฏการณ์ KOL ที่โดดเด่นนี้ คือการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Creator Economy ที่เปลี่ยนจากแค่การจ้างดารามาโปรโมตสินค้า สู่การสร้างสรรค์คอนเทนต์โดยนักสร้างสรรค์ที่หลากหลาย นำเสนอเรื่องราวและประสบการณ์ที่จริงใจ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้บริโภคชาวจีน

 

Creator Economy คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ

Source: Memberful

Creator Economy คือระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยบุคคลทั่วไป หรือ Creators ที่สร้างสรรค์เนื้อหาหลากหลายรูปแบบ เช่น วิดีโอ ไลฟ์สตรีม บล็อก รูปภาพ และสามารถสร้างรายได้จากเนื้อหาเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นจากค่าโฆษณา การขายสินค้าหรือบริการของตัวเอง การรับสปอนเซอร์ หรือแม้แต่การรับโดเนทจากผู้ติดตาม ซึ่ง Creator Economy ในประเทศจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากการผสานรวมของปัจจัยสำคัญหลายประการ ได้แก่

  1. แพลตฟอร์มที่เอื้ออำนวย

หัวใจสำคัญของการขับเคลื่อน Creator Economy ในจีนคือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ที่เข้าใจและตอบสนองความต้องการของทั้ง Creators และผู้บริโภคได้อย่างลงตัว เช่น แพลตฟอร์ม Douyin, Kuaishou และ Xiaohongshu ไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่สำหรับโพสต์เนื้อหา แต่ได้สร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์แบบที่สนับสนุนให้ Creators สร้างสรรค์เนื้อหาได้อย่างไร้ขีดจำกัด เชื่อมโยงกับผู้ชมได้อย่างใกล้ชิด และที่สำคัญคือสามารถสร้างรายได้ได้อย่างง่ายดายและหลากหลายช่องทาง เช่น

  • Live Commerce โดยแพลตฟอร์มเหล่านี้ผสานรวมฟังก์ชันไลฟ์สตรีมเข้ากับการขายสินค้าได้อย่างแนบเนียน เรียลไทม์ทำให้ Creators สามารถนำเสนอสินค้า โต้ตอบกับผู้ชมแบบ และปิดการขายได้ทันทีในระหว่างการไลฟ์
  • Affiliate Marketing ระบบที่ช่วยให้ Creators สามารถสร้างรายได้จากค่าคอมมิชชั่นเมื่อผู้ติดตามซื้อสินค้าผ่านลิงก์ที่โปรโมต
  • การสนับสนุนจากแฟนคลับ โดยผู้ชมสามารถแสดงความชื่นชมและสนับสนุน Creators ที่ชื่นชอบได้ด้วยการมอบของขวัญ หรือสมัครสมาชิกเพื่อเข้าถึงคอนเทนต์พิเศษ ซึ่งทำให้ Creators มีรายได้อย่างต่อเนื่อง
  1. พฤติกรรมผู้บริโภค

ผู้บริโภคชาวจีนในยุคปัจจุบันมีความซับซ้อนและระแวดระวังโฆษณาแบบดั้งเดิมมากขึ้น โดยไม่ได้แค่ต้องการข้อมูลสินค้า แต่ต้องการความจริงใจและคำแนะนำจากคนใกล้ชิดมากกว่า ดังนั้น Influencer หรือ Creators ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจ หรือมีเรื่องราวที่เข้าถึงอารมณ์ จึงกลายเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสูง เพราะ Creators เปรียบเสมือนเพื่อนที่ผู้บริโภคเปิดใจรับฟังคำแนะนำ แตกต่างจากดาราที่อาจดูเข้าถึงยาก ทำให้คอนเทนต์ของ Creators รู้สึกเป็นธรรมชาติและน่าเชื่อถือมากกว่าโฆษณาที่สร้างขึ้นโดยแบรนด์โดยตรง

  1. การเปลี่ยนจากการดูสู่การซื้อในพริบตา

การผสานรวม E-commerce เข้ากับการสร้างสรรค์คอนเทนต์คือจุดเปลี่ยนสำคัญ โดยแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้ทำลายกำแพงระหว่างคอนเทนต์และการซื้อขาย ทำให้ผู้ชมสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าได้ทันทีหลังจากดูรีวิวสินค้าที่น่าสนใจ หรือเข้าร่วมไลฟ์สตรีมที่ดึงดูดใจ ซึ่ง Creators สามารถฝังลิงก์สินค้า วางตะกร้าสินค้า หรือแม้กระทั่งจัดการคำสั่งซื้อได้ภายในแอปพลิเคชันเดียว ซึ่งความไร้รอยต่อนี้ช่วยเร่งวงจรการซื้ออย่างไม่น่าเชื่อ

ดังนั้น การทำความเข้าใจ Creator Economy จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับแบรนด์ที่ต้องการประสบความสำเร็จในจีน เพราะมันไม่ได้หมายถึงแค่การจ้าง KOL หรือ Creators เพื่อโปรโมตสินค้าอย่างผิวเผินอีกต่อไป แต่คือการร่วมมือกันเพื่อสร้างสรรค์เนื้อหาที่เข้าถึงผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง สร้างความน่าเชื่อถือ และเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อของลูกค้าตั้งแต่การรับรู้ การพิจารณา ไปจนถึงการตัดสินใจซื้อขั้นสุดท้าย ดังนั้นการลงทุนใน Creator Economy จึงเป็นการลงทุนในความสัมพันธ์กับผู้บริโภคอย่างแท้จริง

 

ประเภทของ Influencer พลังที่ขับเคลื่อน Creator Economy

Source: Krungsri

ปัจจุบัน Influencer ถูกจำแนกออกเป็น 5 กลุ่มหลักตามขนาดของฐานผู้ติดตาม ได้แก่

  1. Mega Influencer (ผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 คน)
  • จุดแข็ง คือ อิทธิพลทางภาพลักษณ์ และการเข้าถึงผู้ชมจำนวนมหาศาล
  • เหมาะสำหรับแคมเปญที่สร้าง Brand Awareness การเปิดตัวสินค้าใหม่ และการสร้างกระแสไวรัลในวงกว้าง โดยสามารถสร้างรายได้มหาศาลจากการโปรโมตสินค้าและการสร้างคอนเทนต์เชิงพาณิชย์
  1. Macro Influencer (ผู้ติดตาม 100,000 – 1,000,000 คน)
  • จุดแข็ง คือ ฐานผู้ติดตามกว้าง และสร้าง Engagement ได้ดี
  • เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมายกว้างแบบมีทิศทาง เช่น วัยรุ่น คนเมือง ซึ่งเป็น Creators ที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์คอนเทนต์เฉพาะกลุ่ม และเป็นช่องทางสำคัญในการเชื่อมโยงแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่
  1. Mid-tier Influencer (ผู้ติดตาม 50,000 – 100,000 คน)
  • จุดแข็ง คือ แม้ไม่ได้มีชื่อเสียงในวงกว้าง แต่สามารถสร้างคอนเทนต์ที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์ และมียอด Engagement สูง
  • เหมาะสำหรับสินค้าระดับกลางถึงพรีเมียม และการรีวิวแบบจริงใจ
  1. Micro Influencer (ผู้ติดตาม 10,000 – 50,000 คน)
  • จุดแข็ง คือ สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตามได้อย่างสม่ำเสมอ
  • เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการสื่อสารแบบเฉพาะทาง สินค้าเฉพาะกลุ่ม และแคมเปญที่ต้องการข้อมูลจากผู้ใช้จริง โดยเป็น Community Leaders ที่มีความน่าเชื่อถือสูงในกลุ่มเฉพาะของตนเอง จึงทำให้เกิดการแนะนำแบบปากต่อปากที่มีประสิทธิภาพสูง
  1. Nano Influencer (ผู้ติดตาม 1,000 – 10,000 คน)
  • จุดแข็ง คือ มีอิทธิพลในกลุ่มเฉพาะ มีระดับความน่าเชื่อถือสูงในหมู่เพื่อนและผู้ติดตาม
  • เหมาะสำหรับสินค้าทดลอง การตลาดต้นทุนต่ำแต่คุณภาพสูง และเป็นรากฐานสำคัญที่สร้างความหลากหลายและเข้าถึงผู้บริโภคในระดับ Hyper-local หรือ Niche-interest อย่างแท้จริง

 

จุดแข็งของ Influencer Marketing ในจีนที่นักการตลาดไม่ควรมองข้าม

Source: Asia Markets

การทำ Influencer Marketing ในจีนไม่ได้เป็นเพียงการจ้างพรีเซนเตอร์ แต่เป็นการลงทุนใน Creator Economy ที่ให้ผลลัพธ์มหาศาล โดยมีจุดแข็งดังนี้

  1. เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ

KOL ในจีนไม่ได้เป็นแค่บุคคลมีชื่อเสียงทั่วไป แต่เป็น Creators ที่มีอิทธิพลในกลุ่มที่เจาะจง ตัวอย่างเช่น Creators สายรีวิวเครื่องสำอางบน Xiaohongshu ที่เจาะลึกทุกรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ ดังนั้นการจับคู่แบรนด์กับ Creators ที่มีฐานผู้ติดตามและเนื้อหาตรงกับกลุ่มเป้าหมาย จะนำไปสู่ Engagement ที่แท้จริงและ Conversion ที่สูงกว่าการยิง Ads แบบไร้ทิศทาง

  1. สร้างความเชื่อใจได้มากกว่าโฆษณา

ในสังคมจีน ความเชื่อใจคือหัวใจสำคัญของการตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะเมื่อสินค้าหรือแบรนด์นั้นเป็นของต่างชาติ ดังนั้นคำแนะนำจาก KOL หรือ Creators จึงทำหน้าที่เสมือนเสียงจากเพื่อนที่น่าเชื่อถือมากกว่าการเป็นแค่พรีเซนเตอร์ เนื้อหาที่มาจาก Creators มักจะเป็นการเล่าเรื่องจากประสบการณ์จริง มีการทดลองใช้ รีวิวอย่างละเอียด หรือเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่น ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าได้รับข้อมูลที่เป็นกลางและจริงใจ ซึ่งช่วยลดความลังเลและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้เร็วกว่าการดูโฆษณาแบบเดิม ๆ

  1. เนื้อหาเข้ากับวัฒนธรรมจีน

อีกหนึ่งความได้เปรียบที่สำคัญ คือ ความเข้าในจวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่ KOL หรือ Creators ชาวจีนมีมากกว่าแบรนด์ต่างชาติอย่างเห็นได้ชัด โดยพวกเขาสามารถใช้คำพูด สำนวน หรือบริบททางสังคมที่เข้าถึงใจผู้บริโภคได้ดีกว่า เช่น การพูดถึงเทรนด์ประจำช่วงนั้น มุกตลกในโลกออนไลน์ หรือการเชื่อมโยงกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบจีน สิ่งเหล่านี้ช่วยให้คอนเทนต์ของแบรนด์ดูไม่แข็งหรือยัดเยียด แต่กลับเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้ติดตามได้อย่างแนบเนียน และเมื่อเนื้อหาเหล่านี้กระตุ้นอารมณ์หรือความรู้สึกได้ ก็ยิ่งทำให้เกิดความจดจำในแบรนด์ (Brand Recall) และความรู้สึกผูกพันมากขึ้นในระยะยาว

  1. ต่อยอดสู่ยอดขายได้แบบเรียลไทม์

แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในจีน เช่น Xiaohongshu และ Douyin มีจุดแข็งคือการเชื่อมต่อกับระบบ E-commerce ได้แบบไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะเป็นการฝังลิงก์ร้านค้า การสั่งซื้อผ่าน Livestream หรือการจ่ายเงินภายในแอป โดยผู้บริโภคสามารถเปลี่ยนจากการดูรีวิวไปสู่การสั่งซื้อจริงได้ภายในไม่กี่วินาที จุดนี้ทำให้ Influencer Marketing ในจีนไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้าง Awareness แต่ยังเป็นเครื่องมือสร้างยอดขายที่สามารถวัดผลได้ทันที ทั้งยอดคลิก ยอดแชร์ ยอดขาย และยอดติดตาม

 

Influencer Marketing ในจีนไม่ใช่ทางลัดที่ง่ายเสมอไป

Source: Yoohoo! News

แม้ Influencer Marketing ที่ขับเคลื่อนด้วย Creator Economy ในจีนจะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเจาะตลาด แต่ก็ไม่ใช่สูตรสำเร็จที่ใช้ได้กับทุกแบรนด์หรือทุกสถานการณ์ หากขาดการวางแผนอย่างรอบคอบ หรือไม่เข้าใจระบบนิเวศของแพลตฟอร์มจีนอย่างลึกซึ้ง ก็อาจทำให้แคมเปญล้มเหลวได้ไม่ต่างจากการโยนงบประมาณทิ้งโดยเปล่าประโยชน์

  1. เลือก KOL หรือ Creator ผิดกลุ่ม = งบประมาณสูญเปล่า

หนึ่งในความผิดพลาดที่พบได้บ่อยที่สุดของแบรนด์ต่างชาติคือการเลือก KOL หรือ Creators ที่ไม่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งอาจเกิดจากความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Demographic ของ Creators หรือการหลงไปกับยอด Follower โดยไม่วิเคราะห์เชิงลึก ตัวอย่างเช่น การโปรโมตอาหารเสริมสำหรับกลุ่มผู้บริโภคอายุมากกว่า 45 ปี ผ่าน KOL สายแฟชั่นวัยรุ่น ย่อมไม่สามารถโน้มน้าวใจกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงได้ เพราะผู้ติดตามไม่ได้มีความต้องการหรือปัญหาที่ตรงกับผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีกรณีที่แบรนด์เลือก KOL หรือ Creator จากแค่ชื่อเสียงหรือเรตค่าตัวสูง โดยลืมดูว่ายอด Engagement Rate อาจต่ำ คอนเทนต์ไม่สอดคล้องกับสินค้า หรือเป็น Creator ที่รับงานเยอะจนคนดูไม่เชื่ออีกต่อไป

  1. ระบบจีนซับซ้อนและต่างจากประเทศไทย

แม้จีนจะเปิดกว้างทางการค้า แต่ก็ยังเป็นตลาดที่มีกฎเกณฑ์เฉพาะตัวสูงมาก โดยเฉพาะการทำโฆษณาออนไลน์และการร่วมงานกับ KOL หรือ Creators ซึ่งแบรนด์ต่างชาติต้องเข้าใจและปรับตัวตามอย่างรอบคอบ ไม่เช่นนั้นอาจถูกปฏิเสธหรือถูกแบนจากแพลตฟอร์ม โดยมีปัจจัยที่ต้องระวังดังนี้

  • ข้อกำหนดทางกฎหมายและภาษี เนื่องจากการร่วมงานกับ KOL หรือ Creators ต้องมีการเซ็นสัญญาอย่างถูกต้องตามกฎหมายจีน รวมถึงเข้าใจเรื่องภาษี เช่น ภาษีรายได้บุคคล VAT และการหักภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งหากดำเนินการผิดพลาด อาจเกิดปัญหาทางกฎหมายตามมา
  • นโยบายแพลตฟอร์มจีน เนื่องจากแพลตฟอร์มอย่าง Douyin หรือ Xiaohongshu มีระบบหลังบ้านที่ต่างจากแพลตฟอร์มตะวันตก เช่น ต้องมีบัญชี Verified สำหรับการทำการตลาด ต้องลงทะเบียนผ่านเอเจนซี่จีน หรือมีข้อจำกัดบางอย่างในการโพสต์คอนเทนต์
  • โลจิสติกส์และการขนส่ง หากแบรนด์ต้องการปิดการขายทันทีภายใต้แคมเปญ จำเป็นต้องมีพาร์ตเนอร์ในจีนที่สามารถจัดส่งภายในประเทศได้อย่างรวดเร็ว ไม่เช่นนั้นอาจจะพลาดโอกาสทางยอดขายแม้รีวิวจะดีแค่ไหนก็ตาม

 

แบรนด์ไทยควรเริ่มต้นอย่างไรใน Creator Economy ของจีน

Source: IndiaFilings

Influencer Marketing ในจีนไม่ใช่แค่จ้าง KOL แล้วจบ แต่ต้องอาศัยการวางแผนอย่างเป็นระบบ ครบวงจร และต้องเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคจีนอย่างแท้จริง จึงจะสามารถสร้างทั้ง Brand Awareness และ Conversion ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแบรนด์ไทยควรพิจารณาขั้นตอนต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1: วางเป้าหมายให้ชัดเจน

ก่อนเริ่มแคมเปญ แบรนด์ต้องตอบให้ได้ว่าต้องการอะไรจากการใช้ KOL หรือ Creator เพราะเป้าหมายจะเป็นตัวกำหนดทั้งแพลตฟอร์มที่เลือก ประเภทของ Creator และรูปแบบคอนเทนต์ เช่น ต้องการสร้าง Brand Awareness ต้องการผลักดันยอดขายผ่านลิงก์ช้อปออนไลน์ หรือต้องการสร้าง Brand Positioning ดังนั้นการวางเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้แคมเปญมีทิศทาง ไม่หลุดโฟกัส และวัดผลได้จริง

ขั้นตอนที่ 2: เลือกแพลตฟอร์มให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

แต่ละแพลตฟอร์มในจีนมีจุดแข็งต่างกัน การเลือกผิดแพลตฟอร์มเท่ากับการสื่อสารผิดที่ผิดทาง เช่น Xiaohongshu เหมาะกับกลุ่มผู้หญิงเมืองใหญ่ที่ใส่ใจภาพลักษณ์ ไลฟ์สไตล์ ความงาม และสินค้าแฟชั่น หรือ Douyin เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการปลุกกระแสไวรัลผ่านคอนเทนต์สนุก น่าติดตาม หรือรีวิวที่มีความบันเทิง ดังนั้นการจับคู่แพลตฟอร์ม กลุ่มเป้าหมาย และประเภท KOL หรือ Creator ได้ถูกต้อง จึงเป็นกุญแจสู่แคมเปญที่มีประสิทธิภาพ

ขั้นตอนที่ 3: คัดเลือก KOL และ Creator อย่างมีกลยุทธ์

การเลือก KOL และ Creator ที่เหมาะสมไม่ใช่แค่ดูยอดผู้ติดตาม แต่ควรพิจารณาว่าเนื้อหาที่ Creator ทำเป็นประจำตรงกับสินค้าที่ต้องการจะโปรโมตหรือไม่ มียอด Engagement เป็นอย่างไร และมีสไตล์การนำเสนอเข้ากับแบรนด์หรือไม่ โดยการคัดเลือกที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์ และเพิ่มโอกาสสร้างยอดขายได้จริง การมองหา Rising Stars หรือ Creators ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงใน Niche จึงเป็นอีกกลยุทธ์ที่น่าสนใจ

ขั้นตอนที่ 4: วางคอนเทนต์ให้เหมาะกับวัฒนธรรมจีน

คอนเทนต์ที่ใช้ได้ผลในไทยไม่จำเป็นต้องเหมาะกับตลาดจีนเสมอไป เนื่องจากความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม พฤติกรรมผู้บริโภค และการใช้ภาษา โดยแบรนด์ควรร่วมมือกับ KOL และ Creator ในการปรับคอนเทนต์ให้เข้ากับวัฒนธรรมจีน เช่น ใช้ภาษาท้องถิ่นหรือศัพท์ฮิตในจีนเพื่อความเป็นธรรมชาติ เล่าเรื่องจากมุมมองของผู้ใช้งานจริง ไม่เน้นขายตรง เชื่อมโยงกับเทศกาลจีน หรือเทรนด์โซเชียล เช่น ของขวัญรับตรุษจีน หรือ สินค้ายอดฮิตช่วง 11.11 ดังนั้นการให้อิสระกับ Creator ในการสร้างสรรค์เนื้อหาในสไตล์ของตนเอง (ภายใต้ขอบเขตที่กำหนด) จะช่วยให้คอนเทนต์ออกมาเป็นธรรมชาติและเข้าถึงใจผู้ชมได้มากกว่า

ขั้นตอนที่ 5: วัดผลและปรับปรุงแบบ Real-time

จุดแข็งของ Influencer Marketing บนแพลตฟอร์มจีน คือสามารถวัดผลได้แบบทันที (Real-time) เช่น จำนวนคลิกไปยังลิงก์สินค้า ยอดขายที่เกิดจาก KOL และ Creator แต่ละคน ยอด Engagement ของแต่ละโพสต์ ความคิดเห็นเชิงบวกหรือลบของผู้ติดตาม ซึ่งแบรนด์ควรวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับกลยุทธ์ในแคมเปญถัดไป เช่น เลือก KOL หรือ Creator ที่มี ROI ดีที่สุดมาทำแคมเปญระยะยาว หรือปรับวิธีเล่าเรื่องให้ทันกับกระแส ดังนั้นการเรียนรู้และปรับปรุงอย่างต่อเนื่องจึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จใน Creator Economy

 

การเลือก Influencer ไม่ใช่แค่เรื่องของจำนวนผู้ติดตามแต่เป็นเรื่องของความสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย รูปแบบคอนเทนต์ และเป้าหมายของแคมเปญ หากแบรนด์สามารถเลือกใช้ Influencer แต่ละระดับได้อย่างถูกจังหวะ ย่อมสามารถสร้างผลลัพธ์ทางการตลาดได้อย่างคุ้มค่า ทั้งในเชิงยอดขายและภาพลักษณ์ระยะยาว S39 Digital Agency พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ด้านการตลาดในจีนของคุณแบบครบวงจร ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในแคมเปญระดับประเทศ ทั้งในกลุ่มสินค้าความงาม ท่องเที่ยว แฟชั่น อาหาร และสินค้าพรีเมียม

 

📩 ติดต่อเราตอนนี้

📞 02-248-3068 หรือ 061-153-5845 | 📧 info@s39digital.com

Source:

อิทธิพลของ Chinese Influencer ยิ่งใหญ่แค่ไหนในตลาดจีน (HELLOADS)

การตลาดแบบ Influencer marketing คืออะไร เวิร์กจริงหรือหลอก? (ZORT)

ขยายแบรนด์สู่ตลาดจีนด้วยกลยุทธ์ Chinese Influencer Marketing (HELLOADS)

A Guide to Influencer Marketing in China (InfluChina)

 

แชร์ :