ธุรกิจใดกำลังเป็นขาขึ้น? เมื่อนักท่องเที่ยวจีนกำลังกลับมาไทยในปี 2566 หลังโควิดสงบ!

ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 จนต่อมาปี 2566 ถึงช่วงเวลาที่โควิดเริ่มสงบลง ภาคการท่องเที่ยวของไทยเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่ม “นักท่องเที่ยวจีน” ซึ่งถือเป็นแหล่งรายได้ขนาดใหญ่ เป็น 5 ชาติอันดับแรกที่นิยมเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยมากที่สุดในปี 2562 เคยมีนักท่องเที่ยวจีนมากถึง 10.99 ล้านคน ซึ่งสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศ 5.43 แสนล้านบาท ตอนนี้จะสังเกตได้ว่าบรรดาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจำนวนมาก พยายามทำการตลาดจีน ทำโฆษณาจีนเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนอย่างตอนเนื่อง เรามาดูกันดีกว่าว่าธุรกิจไหนล่ะที่เป็นขาขึ้นและกำลังนิยมในหมู่คนจีนบ้าง?

 

นักท่องเที่ยวจีน

เช็กลิสต์ธุรกิจขาขึ้นเมื่อนักท่องเที่ยวจีนกลับมา

1.ธุรกิจโรงแรม

กลุ่มธุรกิจแรกที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากสุด คือ โรงแรมใหญ่ในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่  มักนักท่องเที่ยวจีนมาท่องเที่ยวหลายแบบเข้ามาพักผ่อน ไม่ว่าเป็นคณะทัวร์ มากันเองครอบครัวส่วนตัว หรือแม้สาย Backpacker ต่างก็มีผลตอบรับน่าพึงพอใจจากนักท่องเที่ยวจีนไม่แพ้กัน

Ctrip แพลตฟอร์มบริการจัดการการท่องเที่ยวอันกับ 1 ของจีน เปิดเผยผ่าน South China Morning Post ว่า เกือบครึ่งหนึ่งของการจองโรงแรมของนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยเป็นการจองเพื่อเข้าพักมากกว่า 20 วัน และ มียอดการจองห้องพักโรงแรมชื่อดังในกทม.เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ถือว่าป็นสัญญาณที่ดีช่วงกอบโกยลูกค้า หลังจากเป็นธุรกิจแรกๆ ที่เจ็บหนักที่สุดในช่วงวิกฤตโควิด-19 แบบนี้ต้องรีบทำการตลาดจีน เพื่อโฆษณาให้คนจีนเข้าพักเพิ่มแล้ว!

 

2.ธุรกิจนำเที่ยว (ทัวร์)

กลุ่มธุรกิจนำเที่ยวเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ซบเซาหนักมาหลายปีเช่นกันกับธุรกิจโรงแรม แต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมาประเทศจีนประกาศเปิดประเทศและให้ไทยติด 1 ใน 20 ประเทศที่ทางการจีนอนุญาตให้เดินทางท่องเที่ยว การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนจะส่งผลให้ธุรกิจนำเที่ยวดีขึ้นอีกครั้ง และยังเป็นธุรกิจที่สำคัญมากสำหรับนักท่องเที่ยวจีน เนื่องจากเป็นคนที่ทักษะด้านภาษาคอยให้ความรู้และแนะนำสถานที่ต่างๆ ในเวลานี้บรรดาธุรกิจนำเที่ยวทั้งหลายต่างก็พยายามทำการตลาดจีนอย่างหนักเพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนสนใจเข้าใช้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำโฆษณาจีนออนไลน์เพื่อสื่อสารโปรโมชั่นพิเศษกับคนจีนแผ่นดินใหญ่ในเว็ปไซต์จีนหรือโซเชียลมีเดียจีน โดยราคาแพ็กเกจทัวร์สำหรับเที่ยวประเทศไทย ตั้งแต่ 3,000-5,000 หยวนขึ้นไป อีกทั้งตอนนี้กำลังสู่ช่วง Revenge Consumption (บริโภคล้างแค้น) อัดอั้นจากการกั้กตัวช่วงโควิดที่ผ่านมา หากไม่เกิดการระบาดระลอกใหม่อีกครั้ง เชื่อได้เลยว่านักท่องเที่ยวจีนพร้อมจ่ายแบบไม่มียั้ง

 

3. ธุรกิจเช่า – ซื้ออสังหาริมทรัพย์

 

เป็นอีกประเภทธุรกิจที่เป็นขาขึ้นจนคนไทยถึงกับหวั่นใจ เพราะราคาห้องและที่ดินพุ่งขึ้นสวนกลับสถานการเศรษฐกิจโลกสุดๆ การเติบโตครั้งนี้อาจไม่เชิงว่าได้รับอิทธิพลจากการท่องเที่ยวโดยตรง แต่อย่างที่ทราบกันว่านักท่องเที่ยวจีนชื่นชอบเมืองไทยมาก ทั้งด้วยสภาพแวดล้อม ค่าครองชีพราคาถูก ภูมิศาสตร์และวัตถุดิบอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้คนจีนจำนวนมากเปลี่ยนจาก ”นักท่องเที่ยวจีน” กลายมาเป็น “คนจีนที่อาศัยอยู่ในเมืองไทย” แทน

ย่านใหม่ที่กำลังขึ้นชื่อว่าเป็น Chinatown อีกที่เพิ่มจากเยาวราช คือ ห้วยขวางและพระราม 9 เนื่องจากมีคนจีนอาศัยอยู่เยอะ มีร้านอาหารจีน และร้านขายของชำจีนพร้อม อีกทั้งยังเป็นทำเลทองติด MRT เดินทางเข้ามาในย่านนี้อย่างสะดวกสบาย จึงทำให้ตอนนี้นายหน้าเช่าซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ในไทย-จีน ลุกขึ้นทำการตลาดจีนจำนวนมาก จากการรายงานล่าสุด พ.ย.ปีที่แล้ว พบบริษัทปล่อยเช่าคอนโดให้กับคนจีนไปแล้วมากกว่า 20 ห้อง มีกลุ่มลูกค้าหลากหลาย ไม่ว่านักธุรกิจจีน นักศึกษาจีน และนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวในระยะยาว ซึ่งสามารถส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยได้ในระดับนึง

 

4. ธุรกิจสปาและธุรกิจเสริมสวย

หนึ่งในกิจกรรมโปรดที่นักท่องเที่ยวจีนชอบมากเวลามาเยือนเมืองไทย คือ การนวดสปา การทำผม ทำเล็บ และทำสวยต่าง ๆ  ถือเป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่มาแรงแบบเงียบๆ แต่ได้รับความนิยมสูงมาก ด้วยคุณภาพการบริการที่ดี สร้างบรรยากาศร้านให้ชวนเข้าไปใช้บริการตลอดเวลา บางร้านออกแบบธีมธรรมชาติ ธีมลูกคุณหนูชมพูหวานเย็น หรือ ธีมลักชูดูแพง และราคาถูกจนหลายชาติต้องตะลึง อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นพิเศษที่คิดมาเพื่อเอาใจลูกค้าตลอด จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นักที่การบริการต่างๆ ในประเทศไทยมักเป็นที่พูดถึงในสากลด้วย

ยิ่งถ้าร้านไหนพนักงานพูดภาษาจีนได้คอยอธิบายรายละเอียดให้นักท่องเที่ยวจีนได้ ก็จะยิ่งสร้างความประทับให้กับลูกค้าสุดๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนเหล่านี้ยังมีพฤติกรรมที่ชอบแชร์รูปภาพหรืออัปเดตเรื่องราวต่างๆ ในโซเชียลมีเดียจีน ตามติดทุกเทรนมาแรงในไทย ใครที่สามารถพิชิตใจนักท่องเที่ยวจีนได้จะเหมือนได้ทำการตลาดจีนฟรีไปภายในตัว หากไม่เชื่อลองสังเกตหลายร้านๆ ย่านห้วยขวางได้เลย มีแต่นักท่องเที่ยวจีนเข้าไปรอคิวทำผม เสริมสวยกันจนมองหาลูกค้าไทยแทบไม่เจอเลยทีเดียว

 

5. ธุรกิจอื่น ๆ ในย่านสถานที่ท่องเที่ยว

หลังจากที่มีการผ่อนคลายกฎระเบียบดังกล่าวชาวจีนได้ให้ความสนใจในการค้นหาข้อมูลการท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ใน Baidu index พบว่า 10 เมืองแรกที่คนจีนค้นหาเกี่ยวกับประเทศไทยมากที่สุด ได้แก่ 1.กวางตุ้ง 2.เจียงซู 3.เจ้อเจียง 4.ซานตง 5.ปักกิ่ง 6.เซี่ยงไฮ้ 7.เสฉวน 8.เหอหนาน 9.หูหนาน 10.เหอเป่ย

 

ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และขนส่งสาธารณะที่อยู่ในย่านท่องเที่ยว ต่างก็ช่วยเพิ่มรายได้ในกระเป๋าพ่อค้าแม่ค้า กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศให้เงินหมุนเวียนมากขึ้นกว่าเดิม และได้ประโยชน์จากการกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีน เช่นเดียวกันกับกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ที่กล่าวไปข้างต้น

ทั้งหมดนี้คือกลุ่มธุรกิจที่ถูกมองว่ายังไงก็เป็นขาขึ้นแน่ ๆ เมื่อนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง หลังจากผ่านศึกโควิดกันมาหนักหน่วงทั่วโลก ธุรกิจใดกำลังลังเลจะทำการตลาดจีน ทำโฆษณาจีน บอกได้เลยว่านี่คือจังหวะดีที่ไม่ควรเสียเวลาเป็นอันขาด รีบคว้าโอกาสนักท่องเที่ยวจีน สร้างผลกำไรกำลังกลับคืนมาอีกครั้ง หากใครที่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงสามารถติดต่อเราได้เลย

 

แหล่งที่มา:

Zero-Covid over, Chinese travellers swing into overseas holiday mode | South China Morning Post (scmp.com)

พบ! ธุรกิจเช่า-ซื้ออสังหาฯบริการเฉพาะกลุ่มจีน : PPTVHD36

 

ติดต่อเรา

แชร์ :