จากไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่หันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงกันมากขึ้น เพราะมองว่าสัตว์เลี้ยงเป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัวและสัตว์เลี้ยงยังช่วยเติมเต็มความสดใสในชีวิตของเราได้เป็นอย่างดี ทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเติบโตอย่างรวดเร็วจนทำให้การแข่งขันในตลาดสัตว์เลี้ยงเริ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น ร้านขายสัตว์เลี้ยงในประเทศจีนที่เคยเน้นการขายสัตว์เลี้ยงในราคาสูงกำลังปรับเปลี่ยนมาใช้โมเดลธุรกิจใหม่ที่สร้างกำไรผ่านการขายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงมากกว่า โดยใช้โมเดลใหม่คือ “รับเลี้ยงฟรี จ่ายค่าอาหารเป็นรายเดือน” กำลังเป็นที่นิยมและสามารถสร้างความสำเร็จในวงการธุรกิจสัตว์เลี้ยงในประเทศจีน
วิวัฒนาการของธุรกิจสัตว์เลี้ยง
สมัยก่อนธุรกิจขายสัตว์เลี้ยงมักจะมีรายได้หลักจากการขายสัตว์เลี้ยงเป็นหลัก ซึ่งลูกค้าต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ครั้งเพื่อซื้อสัตว์เลี้ยงเพียงอย่างเดียว ส่วนสินค้าที่จำเป็นสำหรับการเลี้ยงสัตว์ อย่างเช่น อาหารเม็ด อาหารเปียก กระบะทราย ของเล่น และอื่นๆ ลูกค้าจำเป็นต้องซื้อเพิ่มเติมในภายหลัง ในปัจจุบันธุรกิจขายสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตและเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ มีผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ เข้ามาทำธุรกิจเป็นจำนวนมาก ทำให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ก็ยิ่งสูงขึ้น เจ้าของธุรกิจขายสัตว์เลี้ยงหลายรายต้องเผชิญกับยอดขายที่ลดลง จากการตั้งราคาที่ต่ำกว่าของคู่แข่ง รวมไปถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง โดยเฉพาะคนจีนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่วัยทำงานและมีรายได้ไม่มาก มีงบประมาณที่จำกัด ทำให้ไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายในการซื้อสัตว์เลี้ยงได้มากนัก นอกเหนือจากเจ้าของธุรกิจการขายสัตว์เลี้ยง ผู้ประกอบการเกี่ยวกับอาหารสัตว์ก็ได้ผลกระทบเช่นเดียวกัน ทำให้ผู้ประกอบการทั้งสองธุรกิจต้องมาจับมือรวมกันจนได้เกิดเป็น โมเดลธุรกิจใหม่ที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้
จากการร่วมมือกันระหว่างผู้ประกอบการทั้งสองธุรกิจ (ร้านขายสัตว์เลี้ยงและผู้ผลิตอาหารสัตว์) จึงเกิดเป็นโมเดลธุรกิจแบบใหม่ โดยเริ่มต้นโมเดลธุรกิจนี้กับแมวก่อน เนื่องจากรายงานอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงของจีนปี 2023-2024 ระบุว่าคนจีนเลี้ยงแมวมากที่สุดในบรรดาสัตว์เลี้ยงเพราะแมวเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย ทำให้เกิดกลยุทธ์ “แจกแมวฟรี จ่ายค่าอาหารแมวเป็นรายเดือน” ซึ่งหมายความว่าลูกค้าสามารถรับเลี้ยงแมวได้ฟรี แต่ต้องซื้ออาหารแมวยี่ห้อที่กำหนดจากร้านขายสัตว์เลี้ยงทุกเดือนตามระยะเวลาที่ทำสัญญากันไว้ ซึ่งโมเดลนี้ทำให้ผู้ประกอบการที่ขายอาหารแมวสามารถขายสินค้าได้ง่ายขึ้น เมื่อขายได้ก็จะแบ่งกำไรส่วนต่างกับร้านขายสัตว์เลี้ยงด้วย ในส่วนของร้านขายสัตว์เลี้ยงก็สามารถเรียกเก็บแพ็กเกจรายเดือนในราคาสูงได้ ทำให้ได้กำไรจากลูกค้าจากสัญญาระยะยาวอีกทั้งยังได้ส่วนแบ่งจากการขายสินค้าด้วย ทำให้ทั้งสองฝ่ายจะได้ประโยชน์ร่วมกันจากโมเดลธุรกิจนี้
เจาะลึกโมเดล “แจกแมวฟรี จ่ายค่าอาหารแมวเป็นรายเดือน”
โมเดลธุรกิจนี้ทำให้ธุรกิจร้านขายสัตว์เลี้ยงสามารถสร้างรายได้จากหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการเป็นพาร์ทเนอร์กับร้านขายสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในท้องถิ่น ทำให้บางสินค้าจะมีตุ้นทุนต่ำกว่าซื้อในอีคอมเมิร์ซของแบรนด์ จากนั้นนำมาตั้งราคาบวกกำไรที่เหมาะสมในแพ็กเกจค่าอาหารรายเดือนกับลูกค้า หรือจะเป็นการเป็นพาร์ทเนอร์กับทางแบรนด์โดยตรงและได้ส่วนแบ่งจากการขายสินค้า อีกหนึ่งกลยุทธ์เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนคือการไม่เก็บสต็อก เป็นอีกหนึ่งข้อดีจากการเป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ต่าง ๆ เพราะเมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเข้ามา ข้อมูลคำสั่งซื้อจะถูกส่งไปที่แบรนด์โดยตรงและทางแบรนด์จะรับผิดชอบจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าโดยตรง ซึ่งช่วยลดภาระเรื่องการเก็บสต็อกสินค้าได้อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญของโมเดลนี้ไม่ได้อยู่ที่การแจกแมวฟรี เพราะการแจกแมวเหมือนเป็นการดึงดูดให้คนสนใจร้าน แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการทำให้ลูกค้าเหล่านั้นกลับมาซื้อสินค้ากับเราเรื่อย ๆ เช่น อาหารแมว อุปกรณ์ต่าง ๆ เมื่อมีฐานลูกค้าที่มั่นคงแล้ว ก็สามารถต่อรองราคาสินค้ากับพาร์ทเนอร์ได้ซึ่งจะทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ดังนั้นกลยุทธ์ของโมเดลธุรกิจนี้คือการรุกเข้าหาลูกค้า ไม่ใช่รอให้ลูกค้ามาหา
ที่มา: cbndata
ซึ่งหนึ่งในวิธีรุกเข้าหาลูกค้าคือการใช้สื่อโซเชียลมีเดียในการประชาสัมพันธ์ร้าน โดยจั่วหัวว่า “免费领养” หรือ “รับเลี้ยงฟรี” เพื่อดึงดูดความสนใจจากคนรักสัตว์ จากนั้นจึงค่อย ๆ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับการรับเลี้ยงฟรีผ่านโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของประเทศจีน เช่น WeChat, Douyin โดยร้านจะวางตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสัตว์เลี้ยง การสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สามารถทำให้ผู้บริโภคเชื่อใจและตัดสินใจเข้าร่วมโมเดล “แจกแมวฟรี แต่จ่ายค่าอาหารแมวเป็นรายเดือน” ได้ง่ายยิ่งขึ้น
แจกแมวฟรีไปตัวหนึ่ง แต่จะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะคืนทุน?
โมเดลธุรกิจนี้ถือว่าเป็นโมเดลที่ปฎิวัติวงการขายสัตว์เลี้ยงเลยก็ว่าได้ จากเดิมที่ขายได้กำไรรอบเดียว เป็นการได้กำไรจากหลากหลายช่องทางมากขึ้น รวมไปถึงเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship) ในระยะยาวด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังทำให้ร้านขายสัตว์เลี้ยง แบรนด์ขายอาหารสัตว์ และลูกค้า ที่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ทุกส่วนได้รับผลประโยชน์ทุกฝ่าย ลูกค้าก็ได้แมวไปเลี้ยงฟรี แบรนด์ขายอาหารสัตว์ก็ได้รับการการันตีว่าจะขายสินค้าได้ในสภาพคล่อง ส่วนร้านขายสัตว์เลี้ยงซึ่งเป็นแกนหลักของโมเดลธุรกิจนี้ นอกจากจะได้ลูกค้าประจำแล้ว เขาจะได้กำไรมากแค่ไหนกัน? คุ้มหรือไม่ที่จะลองเปลี่ยนมาใช้โมเดลธุรกิจนี้?
ที่มา: cbndata
ข้อมูลจากฟาร์มแมวแห่งหนึ่งในจีนเปิดเผยว่า เขาได้กำไรในอัตราคงที่จากโมเดลนี้ถึง 50% – 60% ต่อแมวหนึ่งตัว นอกจากนี้ยังเปิดเผยอีกว่าแมวสายพันธุ์ Ragdoll ที่ทาสแมวหลายคนรู้ว่ามีค่าตัวสูงมาก แต่ที่จริงแล้วต้นทุนราคาถูกมาก สามารถซื้อแมวตัวนี้ได้ในราคาไม่กี่ร้อยหยวนเท่านั้น ซึ่งหากลูกค้าเลือกจ่ายเดือนละ 598 หยวน (⁓ 3,000 บาท) และเซ็นสัญญา 24 เดือน หากคำนวณตามอัตรากำไร ร้านขายสัตว์เลี้ยงจะได้กำไรจากการชำระค่าอาหารแมวรายเดือนอย่างน้อย 300 หยวน (⁓ 1,500 บาท) ต่อเดือน และหากต้นทุนของแมวสายพันธุ์ Ragdoll อยู่ที่ 600 หยวน ก็จะสามารถคืนทุนได้ภายในสองเดือน โดยตลอดระยะเวลาสัญญา 24 เดือน ลูกค้าจะต้องจ่ายเงินทั้งหมด 14,352 หยวน (⁓ 70,000 บาท) ไม่ใช่จ่ายเพื่อเป็นค่าตัวแมวแต่อย่างใด เงินที่จ่ายไปนั้นคือค่าอาหารแมวเพียงอย่างเดียว เมื่อคำนวณกำไรในอัตราคงที่ 60% และหักต้นทุนของแมวสายพันธุ์ Ragdoll 600 หยวน จะได้กำไรสุทธิมากกว่า 8,000 หยวน (⁓ 40,000 บาท)
นับตั้งแต่ปี 2019 จนถึงปัจจุบัน ฟาร์มแมวของเขาได้แจกแมวไปมากกว่า 6,000 ตัว โดยจำนวนเงินที่ลูกค้าต้องชำระเป็นค่าอาหารในแต่ละเดือนอยู่ระหว่าง 198 หยวน (⁓ 1,000 บาท) ถึง 598 หยวน และระยะเวลาของสัญญาจะถูกกำหนดตามความต้องการของลูกค้า โดยระยะเวลาสัญญาที่สั้นสุดคือ 1 ปี และยาวสุดคือ 2 ปี ซึ่งในปัจจุบันมีลูกค้าในสัญญามากกว่า 1,700 ราย
อย่างไรก็ตามก็มีเจ้าของฟาร์มแมวในฉงชิ่งออกมาแสดงความเห็นกับโมเดลนี้เช่นกัน เขาให้ความเห็นว่าฟาร์มที่ต้องการขายแมวที่มีคุณภาพสูงนั้น กว่าจะคืนทุนและทำกำไรได้นั้นต้องใช้ระยะเวลา 6 เดือนถึง 1 ปี หรืออาจนานกว่านั้น การกล่าวว่าโมเดลนี้สามารถคืนทุนได้ภายในสองเดือนอาจจะดูเป็นแนวคิดที่เกินจริงไปหน่อย แม้ว่าต้นทุนแมวสายพันธุ์ Ragdoll จะมีราคาต่ำก็จริง แต่การนำแมวเข้าร้านและทำกำไรนั้นไม่ใช่แค่การรับแมวและขายแมวอย่างง่าย ๆ แต่ยังมีต้นทุนแฝงที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน เช่น ค่าตรวจสุขภาพแมว ฉีดวัคซีน ค่าอาหาร รวมไปถึงค่าสถานที่ ค่าแรงพนักงาน ค่าโฆษณา ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องคำนวณต้นทุนและกำไรให้ดีก่อนที่จะเปลี่ยนไปใช้โมเดลธุรกิจนี้
อนาคตของโมเดลธุรกิจ
จากข้อมูลในรายงาน Pet Industry Blue Book: 2023 China Pet Industry Development Report ที่เผยแพร่โดย Euromonitor International ร่วมกับสถาบันวิจัยอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงจีน พบว่าจำนวนสุนัขและแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงในประเทศจีนเมื่อปีที่แล้วสูงถึง 190 ล้านตัว คาดการณ์ว่าถึงปี 2028 จำนวนสุนัขและแมวจะเพิ่มขึ้นเป็น 210 ล้านตัว โดยจำนวนแมวจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 110 ล้านตัว จากความนิยมในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่เปลี่ยนแปลงไป
ในขณะเดียวกัน จำนวนสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้นก็กระตุ้นให้เกิดอุปทานในสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะอาหารสัตว์ โดยในปี 2023 ขนาดตลาดอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ของจีนได้ก้าวขึ้นเป็นอันดับสามของโลก
โมเดลธุรกิจ “แจกแมวฟรี จ่ายค่าอาหารแมวเป็นรายเดือน” จึงเป็นแนวคิดที่ทันสมัยและสามารถตอบโจทย์ธุรกิจร้านขายสัตว์เลี้ยงได้เป็นอย่างดี
ที่มา: cbndata
หนึ่งในร้านขายสัตว์เลี้ยงที่เริ่มใช้โมเดลธุรกิจนี้ก่อนคนอื่นคือ “幺社领猫馆” ซึ่งเป็นร้านขายสัตว์เลี้ยงและสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงชื่อดังในจีน ร้านคิดค้นวิธีการใหม่ในการขายแมวคือ “รับเลี้ยงแมวฟรี” โดยให้ลูกค้ารับแมวไปเลี้ยงฟรี แต่ต้องซื้ออาหารและสินค้าอื่น ๆ จากร้านเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นแบรนด์ที่ร้านผลิตเอง เนื่องจากต้นทุนการซื้ออาหารแมวจากแบรนด์ใหญ่ในตลาดนั้นสูงเกินไป ทำให้กำไรที่ได้มีจำกัด ทั้งนี้ร้านเริ่มใช้โมเดลธุรกิจนี้ตั้งแต่ปี 2020 โดยในช่วงแรกเน้นเป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์อื่น ๆ ก่อน แต่เมื่อธุรกิจไปได้ดีทำให้ในช่วงต้นปี 2022 ร้านจึงเปิดตัวสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงที่พัฒนาและผลิตขึ้นเองอย่างเป็นทางการ โดยภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งปีก็สามารถทำยอดขายได้ถึง 20 ล้านหยวน (⁓ 100 ล้านบาท) แสดงให้เห็นว่าร้านที่สามารถสร้างธุรกิจที่ครบวงจรทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อได้ในระยะยาวเช่นนี้ จะส่งผลให้มีกำไรและแบรนด์แข็งแกร่งขึ้น และในปีนี้ร้านได้เพิ่มบริการอาบน้ำตัดขนที่ร้านซึ่งสามารถจองคิวผ่านช่องทางออนไลน์ได้ นอกจากนี้ยังเป็นพาร์ทเนอร์กับคลินิกสัตว์เลี้ยง นอกจากจะให้บริการรักษาสัตว์แล้ว ยังเพิ่มบริการรับฝากสัตว์เลี้ยงเพื่อแก้ไขปัญหาที่ไม่มีใครดูแลสัตว์เลี้ยงให้ในช่วงวันหยุดหรือต้องไปทำธุระหลายวัน ทั้งหมดนี้ยิ่งเสริมให้ร้านมีบริการที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น
ที่มา: 客户端
จากเคสของร้าน “幺社领猫馆” เป็นหนึ่งตัวอย่างที่ทำให้เราได้เห็นว่าโมเดลธุรกิจสามารถทำกำไรได้จริงและสามารถพัฒนาต่อได้อีกไกล อีกทั้งพฤติกรรมการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปทั่วโลก จำนวนสุนัขและแมวที่น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระตุ้นอุปสงค์ต่อสินค้าและบริการสำหรับสัตว์เลี้ยงมากยิ่งขึ้น โมเดลธุรกิจนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ร้านขายสัตว์เลี้ยงสามารถอยู่รอดได้ในภาวะที่ตลาดมีการแข่งขันสูงเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ร้านได้ขยายธุรกิจต่อไปเป็นผู้ให้บริการที่ครบวงจร สามารถตอบสนองต่อความต้องการในทุกด้านของผู้เลี้ยงสัตว์ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจมีความหลากหลายและสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
กระแสวิพากย์วิจารณ์ในโลกออนไลน์
ที่มา: 小红书
อย่างไรก็ตาม เมื่อโมเดลนี้เริ่มแพร่หลายมากขึ้น หลายร้านในจีนก็เริ่มใช้โมเดลนี้ ซึ่งบางร้านก็ไม่สามารถควบคุมคุณภาพการให้บริการให้ดีได้เทียบเท่าร้านอื่น ทำให้เริ่มมีเสียงวิพากวิจารณ์อย่างหนักในโซเชียลมีเดียถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น บางร้านการแจกแมวที่ป่วยให้กับลูกค้า คุณภาพของอาหารแมวไม่สม่ำเสมอ หรือแม้กระทั่งกรณีแมวเสียชีวิตแล้วแต่ยังต้องชำระเงินค่าอาหารรายเดือน การวิพากษ์วิจารณ์จากผู้บริโภคทำให้หลายร้านต้องพัฒนาการบริการและการควบคุมคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว หลายร้านจึงได้ออกมาดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อสร้างความไว้วางใจให้ลูกค้า เช่น ร้าน “幺社领猫馆” ได้ออกมาตรการรับประกันว่าแมวของทางร้านจะได้รับการฉีดวัคซีนครบสองเข็มและสังเกตอาการต่ออีก 7 วันก่อนจะนำไปแสดงตัวในร้าน อีกทั้งยังออกมาตรการเรื่องการเสียชีวิตของแมวที่รับมาจากทางร้าน หากภายในสองปีแมวเสียชีวิตจากโรค จะทำการคืนเงินในอัตราที่ได้ตกลงกันไว้ นอกจากนี้ยังมีบริการหลังการขายเพิ่มเติม โดยมีสัตวแพทย์คอยตอบคำถามและให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพผ่านช่องทางออนไลน์ มาตรการเหล่านี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในโมเดล “รับเลี้ยงฟรี” และช่วยส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงอย่างยั่งยืน
ถึงแม้โมเดล “รับเลี้ยงฟรี แต่จ่ายค่าอาหารสัตว์เป็นรายเดือน” จะยังมีข้อพิพาทในสื่อโซเชียลมีเดีย แต่ก็ถือได้ว่าโมเดลนี้กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงอย่างมีนัยสำคัญ จากการร่วมมือกันของผู้ประกอบการจากหลายอุตสาหกรรม สร้างเป็นระบบนิเวศธุรกิจที่ครอบคลุมทุกด้านของการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง แม้จะมีความท้าทายและปัญหาที่ต้องแก้ไข แต่ด้วยการปรับปรุงและการพัฒนาทางธุรกิจที่ต่อเนื่อง ทำให้โมเดลนี้มีศักยภาพในการสร้างรายได้และการเติบโตในระยะยาว
หากคุณต้องการจะตีตลาดจีนแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร S39 Digital Agency มีบริการครบครันที่สามารถพาท่านบุกตลาดจีน มีทีมงานที่เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่สามารถวางแผนกลยุทธ์ให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย ทำให้ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องกลยุทธ์ในการตีตลาดจีน เราพร้อมให้คำปรึกษาและให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพ เพื่อช่วยยกระดับแบรนด์ของคุณ และช่วยกระตุ้นยอดขายตามเป้าหมายที่คุณต้องการ
